5 เรื่องต้องรู้หลังซื้อ รถกอล์ฟไฟฟ้า

คุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไม รถกอล์ฟไฟฟ้า ของเราที่ใช้กันในสนามกอล์ฟจึงเสียบ่อยแบบนี้ ที่รถกอล์ฟไฟฟ้าเสียอยู่บ่อย ๆ แท้จริงแล้วมีสาเหตุนะ งานนี้ต้นตอของปัญหามันเกิดจากอะไร H SEM หาคำตอบมาให้คุณผู้อ่านแล้ว!

5 วิธีดูแล รถกอล์ฟไฟฟ้า อย่างถูกวิธี ยืดอายุการใช้งานไปได้ไกล

เชื่อเหลือเกินว่าหลังจากที่เจ้าของธุรกิจอย่างคุณเลือกซื้อรถกอล์ฟมาเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจแล้ว จะต้องอยากทราบอย่างแน่นอนว่าขั้นตอนในการดูแลรถกอล์ฟไฟฟ้าอย่างถูกวิธีนั้นมีอะไรบ้าง งานนี้ใครที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ เลื่อนลงไปอ่านขั้นการดูแลรถกอล์ฟไฟฟ้าพร้อมกันกับเราได้ที่ด้านล่างนี้เลย! 

1. แบตเตอรี่ห้ามต่ำกว่า 20-30% 

สำหรับเรื่องนี้เป็นอะไรที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20-30% นั้นมีแต่จะส่งผลเสีย ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น หากร้ายแรงมากอาจถึงขั้นที่แบตเตอรี่ของคุณเสีย ใช้งานไม่ได้เลยทีเดียว ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าแบตเตอรี่นั้นไม่ถูกกับความร้อน 

และเมื่อคุณใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่นานมากขึ้นเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ตัวแบตเตอรี่เกิดความร้อนเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีคุณควรชาร์จแบตเตอรี่ทันทีที่เหลือแบตเตอรี่อยู่ที่ 20-30% เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่ทำงานหนักมากเกินไปนั่นเอง

2. ตรวจน้ำกลั่นทุก 7 วัน

หากแบตเตอรี่รถกอล์ฟไฟฟ้าที่คุณใช้อยู่เป็นแบตเตอรี่แบบน้ำ เราขอแนะนำให้คุณตรวจน้ำกลั่นอยู่เสมอว่ามันลดลงไปต่ำกว่าเกณฑ์ที่แนะนำหรือไม่ ถ้าลดลงต้องรีบเติมทันที เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมา ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าแบตเตอรี่แบบน้ำกลั่นนั้นมีน้ำกรดอยู่ในแบตเตอรี่ ทำให้เวลาที่นำกลั่นระเหยไปโดยที่ไม่มีใครเติมน้ำกลั่น น้ำกรดที่อยู่ในแบตเตอรี่ก็จะเกิดความเข้มข้นขึ้นกว่าปกติ ท้ายที่สุดแผ่นธาตุที่อยู่ในแบตเตอรี่ก็จะถูกกัดกร่อนจนเสียหาย ทำให้แบตเตอรี่เสียเร็วขึ้นนั่นเอง

3. พักรถก่อนชาร์จแบตเตอรี่ 15-30 นาที

เนื่องจากรถกอล์ฟไฟฟ้าที่ผ่านการใช้งานมานั้นย่อมทำให้ตัวแบตเตอรี่ย่มีความร้อนในตัวอยู่ค่อนข้างสูง ทำให้การนำแบตเตอรี่มาชาร์จเลยทันทีสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมอายุเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อที่แบตเตอรี่ของคุณจะได้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานตามที่มันควรจะเป็น เราขอแนะนำให้หลังจากที่คุณใช้งานรถกอล์ฟไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนชาร์จแบตเตอรี่คุณควรพักรถไว้ในที่ร่มก่อน 15-30 นาที เพื่อให้แบตเตอรี่คลายความร้อนลง จากนั้นจึงค่อยนำรถกอล์ฟไฟฟ้าไปชาร์จตามปกติ

4. ห้ามดึงเบรกมือค้างไว้

สำหรับปัญหานี้เราเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนเองก็อาจจะไม่ประสบกับปัญหานี้ แต่บางคนเองอาจจะเผลอทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือการเผลอดึงเบรกมือค้างไว้ก่อนสตาร์ทรถ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ทำให้เบรกมือของรถเสื่อมไวเป็นอย่างมาก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินซ่อมเบรกมือของรถกอล์ฟไฟฟ้า ทางที่ดีเราขอแนะนำให้ก่อนที่คุณจะสตาร์ทรถกอล์ฟไฟฟ้าควรดึงเบรกมือก่อนเสมอจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินซ่อมค่าเบรกมือโดยไม่จำเป็นนั่นเอง

5. ห้ามนำ รถกอล์ฟไฟฟ้า โดนน้ำ

เชื่อเหลือเกินว่าหลังจากที่ได้ยินขั้นตอนในการดูแลรถกอล์ฟไฟฟ้าแบบนี้ หลายคนคงจะเกิดคำถามในใจอย่างแน่นอนว่าใครจะนำรถกอล์ฟไฟฟ้าไปโดนน้ำ ซึ่งข้อห้ามนำรถกอล์ฟไฟฟ้าโดนน้ำนี้ไม่ได้หมายถึงการขับรถกอล์ฟไฟฟ้าไปลุยน้ำแต่อย่างใด แต่หมายถึงการห้ามนำรถกอล์ฟไฟฟ้าไปขับบนสนามกอล์ฟที่เพิ่งถูกน้ำรดไป 

เนื่องจากละอองน้ำที่อยู่บนหญ้าในสนามกอล์ฟอาจกระเซ็นเข้าไปโดนมอเตอร์ของรถกอล์ฟไฟฟ้าที่อยู่ใต้ท้องรถได้นั่นเอง ทางที่ดีหลังจากที่มีการรดน้ำบนสนามหญ้าไปได้ไม่นาน เราขอแนะนำให้คุณรอให้น้ำที่อยู่บนหญ้านั้นลดน้อยลงก่อน หรือหญ้าแห้งก่อนจึงค่อยนำรถกอล์ฟไฟฟ้าไปขับลงบนสนามหญ้าได้

และนี่ก็คือสาระดี ๆ ที่ H SEM นำมาฝากคุณในวันนี้ เชื่อว่าหลังจากที่อ่านบทความ “5 เรื่องต้องรู้หลังซื้อรถกอล์ฟไฟฟ้า” จบ คุณผู้อ่านทุกท่านจะสามารถนำข้อมูลในบทความนี้ไปปรับใช้กับการดูแลรถกอล์ฟไฟฟ้าของคุณได้นะ