วันหยุดสำคัญทั้งที แบบนี้ต้องออกไปเที่ยว กับ 9 สถานที่ตามรอย โครงการพระราชดำริ ของในหลวงรัชการที่ 9 งานนี้แต่ละ สถานที่ท่องเที่ยวจะมีความโดดเด่นและสวยงามขนาดไหน ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแบบใหม่ ๆ ไม่ควรพลาด!
9 สถานที่ท่องเที่ยวตามรอย โครงการพระราชดำริ รัชการที่ 9
1. “โครงการพระราชดำริปางตอง 2” (ปางอุ๋ง)
ตั้งอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยในอดีตปางอุ๋งเป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดง เนื่องจากอยู่ติดแนวชายแดนพม่า ทำให้มีการขนส่งยาเสพติด ปลูกพืชเสพติด และบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริรวบรวมราษฎรบริเวณพื้นที่นี้ และพัฒนาความเป็นอยู่ สร้างอ่างเก็บน้ำ ฟื้นฟูธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ทำให้ปางอุ๋ง ณ เวลานี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่คนไทยจะต้องไปให้ได้สักครั้ง ว่ากันว่าที่นี่สวยจนถูกยกให้เป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” เลยก็ว่าได้ นอกจากวิวสวย ๆ น่าประทับใจที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิ การชมพระอาทิตย์ขึ้น ล่องแพท่ามกลางสายหมอกเย็น ๆ เพื่อศึกษาธรรมชาติ 2 ข้างทาง เป็นต้น ไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาดก็คือ หงส์สีขาวและสีดำที่ออกมาโชว์ตัวคู่กันให้ได้ชมอยู่เสมอ
2. โครงการพระราชดำริชั่งหัวมัน
สำหรับโครงการนี้เกิดขึ้นจากความเอาพระทัยใส่ของพระองค์ ที่ทรงมีต่อเกษตรกรในการที่จะพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากในอดีตพื้นที่ตรงนี้มีความแห้งแล้งเป็นอย่างมาก โดยได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินที่บ้านหนองคอกไก่ ตำบลเขากระปุก จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 250 ไร่เพื่อให้เป็นศูนย์รวมพืชเศรษฐกิจของ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
ซึ่ภายในโครงการมีกังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็นพลังงานทดแทน ผลิตพืชปลอดภัยจากสารพิษ แปลงปลูกข้าว ฟาร์มโคนม ฟาร์มไก่ และแปลงเกษตรที่จัดเป็นสวนสวยให้ชาวบ้าน ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา มาศึกษาหาความรู้ทางด้านเกษตร นอกจากนี้ยังมีบริการเช่าจักรยานให้นักท่องเที่ยวได้ปั่นเที่ยวชมบรรยากาศภายในไร่อีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่นี่จะต้องได้ความรู้กับภาพสวย ๆ กลับบ้านแน่นอน!
3. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
ก่อตั้งตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้พิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมจัดทำโครงการพัฒนาอาชีพการประมงและการเกษตร ในเขตที่ดินชายฝั่งทะเลและจัดหาพื้นที่ป่าสงวนที่เสื่อมโทรมหรือพื้นที่สาธารณประโยชน์เพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา
โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2525 เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการศึกษาสาธิต และการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล โดยวางแผนพัฒนาการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและยั่งยืน ภายในศูนย์มีห้องบรรยาย ศูนย์ข้อมูล ห้องสมุด เปิดบริการสำหรับคนทั่วไป แถมยังมีการสาธิตการเลี้ยงกุ้งกุลาดำอีกด้วย ตอบโจทย์สุด ๆ สำหรับคนที่อยากได้ความรู้กับภาพสวยไปประดับ Facebook และ instagram
4. ทุ่งโปรงทอง
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติตั้งอยู่ที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ขนาด 6,000 ไร่ มีพันธุ์ไม้ชายเลนมากมายหลากหลายชนิด แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่และที่หลบภัยของสัตว์นานาชนิด โดยมีทางเดินเป็นสะพานไม้ระยะทางทั้งหมด 1 กิโลเมตร ระหว่างทางมีต้นไม้ชายเลนมากมาย
โดยไฮไลท์สำคัญก็คือ! ทางเดินที่ทอดผ่านป่าทุ่งโปรง ตอบโจทย์สุด ๆ สำหรับคนที่อยากได้ภาพไปลง Facebook instagram เพราะมุมตรงนี้สวยมากจริง ๆ ใครที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย มาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ลมเย็นสบาย ใกล้ชิดธรรมชาติ ทุ่งโปรงทองคือคำตอบ HSEM MOTOR บอกเลย!
5. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นสภานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเลยก็ว่าได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงใหม่ เนื่องจากมีทัศนียภาพที่งดงาม โดยที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการหลวงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโครงการขึ้น โดยใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ เพื่อให้ชาวไทยภูเขาเลิกปลูกฝิ่นหันมาปลูกพืชเมืองหนาวแทน
งานนี้ใครที่อยากจะมีโมเมนท์ชมซากุระแต่งบไปไม่ถึงญี่ปุ่น HSEM MOTOR บอกเลยว่าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางคือคำตอบ! ถ้าจะให้ดีมาช่วงเดือนมกราคมจะดีที่สุด รับรองว่าคุณจะได้ภาพสวย ๆ จากซากุระเมืองไทยอย่างดอกนางพญาเสือโคร่งแน่นอน
6. เขื่อนขุนด่านปราการชล
ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครนายก โดยโครงการนี้เกิดขึ้นจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 13 ปี ตั้งแต่พ.ศ.2540 – 2552 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำนครนายกตอนบน ให้ราษฎรทางตอนล่างมีน้ำใช้ทำการเกษตร การอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวนครนายกและจังหวัดใกล้เคียง
โดยเขื่อนขุนด่านปราการชลนับเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูง 93 เมตร พร้อมรับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีความจุถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครนายกอีกด้วย
7. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ตั้งอยู่ที่จังหวัดลพบุรี โดยเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นเขื่อนดินที่มีสันเขื่อนยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและเป็นประโยชน์ต่อการเกษตร การอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ เริ่มก่อสร้างในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2537
นอกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะทำหน้าที่กักเก็บน้ำแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญประจำจังหวัดลพบุรีอีกด้วย โดยภายในบริเวณเขื่อนยังมีพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก ที่แสดงความเป็นมาของเขื่อน ความรู้ด้านธรรมชาติ และเป็นที่หยุดรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทยสายพิเศษ กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เปิดให้บริการในช่วงเทศกาลการท่องเที่ยวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคมของทุกปี งานนี้ใครไม่อยากพลาดสถานที่ท่องเที่ยววิวสวย เปี่ยมไปด้วยความรู้ไม่ควรพลาด!
8. โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์
สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค ตอบโจทย์คนชอบถ่ายรูปสุด ๆ โดยประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาคลองลัดโพธิ์ให้กลายเป็นทางระบายน้ำ มีช่องประตูระบายทั้งหมด 4 ช่อง ซึ่งจะเปิดประตูระบายน้ำทันทีเมื่อน้ำท่วมขัง และปิดประตูระบายน้ำเมื่อเกิดน้ำทะเลหนุนสูง ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ทั้งยังติดตั้งกังหันทดน้ำไว้ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย
9. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่บนพื้นที่ 150 ไร่ โดยสร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพื่อวิจัยค้นคว้าข้อมูลเป็นแนวทางที่จะนำเอาผลจากการวิจัยมาส่งเสริมอาชีพเป็นรายได้ของครอบครัวเกษตรกร ซึ่งใครที่มาที่นี่นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้รูปสวย ๆ กลับบ้านไปอีกเพียบแน่นอน เพราะที่นี่เขามีทัศนียภาพที่งดงาม ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในต่างประเทศ ยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวของไทยด้วยและละก็ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีแน่นอน!
และนี่ก็คือ 9 สถานที่ที่ HSEM MOTOR นำมาฝากคุณผู้อ่านในวันนี้ งานนี้ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ที่เราแนะนำ เราขอบอกเลยค่ะว่าตองไป! เพราะเมืองไทยมีอะไรสวยงามอีกเยอะ ยิ่งช่วงหน้าหนาวแบบนี้ บอกเลยว่าต้องไปตามเก็บสถานที่เหล่านี้ให้ครบ รับรองว่าคุณจะได้บรรยากาศดี ๆ ตอบโจทย์ ตรงใจ ค่าใช้จ่ายน้อยแน่นอน