เชื่อว่าหลาย ๆ คน ต้องรู้จักกับรถชมวิวไฟฟ้าอย่างแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่คุ้นชิน และ มีให้เห็นกันมานานแล้ว ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุทยาน สวนสัตว์ โรงแรม หรือ รีสอร์ท ก็มักจะมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ และ ถ้าหากว่าใครกำลังมองหายานพาหนะขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุผู้โดยสารจำนวนมากได้ เพื่อเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยว ให้ได้ชื่นชมกับทัศนียภาพความงามของธรรมชาติ สนามกอล์ฟ หรือ สวนสัตว์ คงจะต้องนึกถึงรถชมวิวไฟฟ้าเป็นอันดับแรก นอกจากนั้นรถชมวิวไฟฟ้ายังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก ด้วยนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด จึงปลอดภัยจากมลพิษทั้งคน และ สัตว์ อย่างแน่นอน
ซึ่งในปัจจุบันนั้น รถไฟฟ้าประเภทนี้ก็มีออกมาให้เลือกหลากหลายสไตล์ที่แตกต่างกันไป ตามความเหมาะสมกับสถานที่ บรรยากาศ และ พื้นที่ คนส่วนใหญ่จึงมักจะนิยมใช้รถชมวิวไฟฟ้าในสถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็มีบ้างที่เราจะสามารถพบเห็นรถชมวิวไฟฟ้าให้บริการอยู่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อใช้ในการพาผู้โดยสารไปยังสถานที่ต่าง ๆ ภายในชั้นเดียวกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย แก่คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ จุดเด่นของรถชมวิวไฟฟ้า คือการขนส่งผู้โดยสาร ได้จำนวนมากในรอบเดียว จึงเหมาะกับสถานที่ที่จำเป็นต้องบรรจุคนเยอะ ๆ ในการเดินทาง
ตอบโจทย์ธุรกิจการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ด้วยรถชมวิวไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าในปัจจุบัน รถชมวิวไฟฟ้าได้ถูกออกแบบมาหลากหลายสไตล์ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ บรรยากาศ และ พื้นที่ แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังนึกไม่ออกว่า รถชมวิวไฟฟ้าแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันอย่างไร ? H SEM จึงจะขอพาไปทำความรู้จักกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถชมวิวไฟฟ้าแต่ละรุ่นกันเลย
1.FIRENZE S หรือ รถชมวิวไฟฟ้า รุ่น CLASSIC Firenze ที่สุดของความวินเทจ เบาะหนังสุดหรูหรา แชสซีเหล็กกล้า และ ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยรูปทรงสุดคลาสสิก ในกระบวนการผลิตมาตรฐานสูงสุด มาพร้อมพวงมาลัยซ้ายสไตล์ยุโรป แผงคอนโทรล CURTIS บอกระยะทาง ความเร็ว อุณหภูมิ เวลา และ แบตเตอรี่ พร้อมช่องเสียบ USB ความเร็วสูงสุด 29 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 70 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง CLASSIC Firenze คลาสสิกสไตล์ในแบบคุณ
2.FORCE รถชมวิวพลังงานไฟฟ้าสายลุย แชสซีเหล็กกล้า และ ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยรูปทรงแฮมเมอร์ มาพร้อมกับสีสันโดดเด่นที่มีให้เลือกถึง 3 สี ในกระบวนการผลิตมาตรฐานสูงสุด และ พวงมาลัยซ้ายสไตล์ยุโรป แผงคอนโทรล CURTIS บอกระยะทาง ความเร็ว อุณหภูมิ เวลา และแบตเตอรี่ พร้อมช่องเสียบ USB ความเร็วสูงสุด 24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 80 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
3.BOOGIE ตอบโจทย์ธุรกิจรถชมวิวต้องรุ่นนี้เลย BOOGIE ชมวิวไฟฟ้า 23 ที่นั่ง รูปทรงสวย แปลกตา โดดเด่น มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้ สามารถติดตั้งแผง Solar Cell และ รองรับน้ำหนักได้ถึง 1,840 กิโลกรัม รถชมวิวไฟฟ้า BOOGIE ขับง่าย ไร้ควัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4.SEV 5 ใครกำลังมองหารถไฟฟ้าไว้ใช้ในธุรกิจสนามกอล์ฟ พื้นที่โครงการหมู่บ้าน หรือคอนโด รีสอร์ท รถชมวิวไฟฟ้าขนาด 5 ที่นั่ง ต้องรุ่นนี้เลย SEV 5 รองรับน้ำหนักได้ถึง 320 กิโลกรัม สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม แผง Solar Cell ได้ เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า และ ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังมีรุ่น SEV 8 รถชมวิวไฟฟ้าขนาด 8 ที่นั่ง รองรับน้ำหนักได้ถึง 640 กิโลกรัม หรือ รุ่น SEV 14 รถชมวิวไฟฟ้าขนาด 14 ที่นั่ง รองรับน้ำหนักได้ถึง 1,120 กิโลกรัม ไปจนถึง รุ่น SEV 23 รถชมวิวไฟฟ้าขนาด 23 ที่นั่ง รองรับน้ำหนักได้ถึง 1,820 กิโลกรัม
H SEM ผู้ผลิต และ จำหน่าย รถชมวิวไฟฟ้าคุณภาพถูกใจ ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
เมื่อได้ทำความรู้จักกับรถชมวิวแบบไฟฟ้าแต่ละรุ่นจาก H SEM กันไปแล้ว คงจะทราบถึงเหตุผลกันแล้วว่าทำไม รถชมวิวไฟฟ้าถึงตอบโจทย์สถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น อุทยาน รีสอร์ท สวนสัตว์ สวนสนุก หรือ สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่า รถชมวิวไฟฟ้ามีลักษณะเปิดโล่ง ไร้หน้าต่าง ทำให้ผู้โดยสารสามารถรับลม และ ชมทิวทัศน์ข้างทางได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแดด และ ฝน เพราะรถชมวิวไฟฟ้ามาพร้อมกับหลังคานั่นเอง อีกทั้งรถชมวิวไฟฟ้าจาก H SEM ยังถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติ ทุกการขับขี่จะปลอดภัย อุ่นใจทั้งคน และ สัตว์ อย่างแน่นอน